พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๖
อังคุตตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนิบาต
ท่านพระอานนท์ทูลถามว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระองค์ตรัสว่า สังฆสามัคคี สังฆสามัคคี ดังนี้ สงฆ์จะเป็นผู้พร้อมเพรียงกันด้วยเหตุมีประมาณเท่าไรหนอแล ฯ
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรอานนท์ ภิกษุในธรรมวินัยนี้
ย่อมแสดงสิ่งที่ไม่ใช่ธรรม ว่าไม่ใช่ธรรม
ย่อมแสดงสิ่งที่เป็นธรรม ว่าเป็นธรรม
................
ย่อมแสดงสิ่งที่ตถาคตไม่ได้บัญญัติไว้ ว่า ตถาคตไม่ได้บัญญัติไว้
ย่อมแสดงสิ่งที่ตถาคตได้บัญญัติไว้ ว่า ตถาคตได้บัญญัติไว้
ภิกษุเหล่านั้น ย่อมไม่ทอดทิ้งกัน
ไม่แยกจากกัน
ไม่ทำสังฆกรรมแยกกัน
ไม่สวดปาติโมกข์แยกกัน
ด้วยวัตถุ ๑๐ ประการนี้ ดูกรอานนท์ สงฆ์ย่อมเป็นผู้พร้อมเพรียงกันด้วยเหตุมีประมาณเท่านี้แล ฯ
อา. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ก็บุคคลผู้สมานสงฆ์ผู้แตกกันแล้วให้พร้อมเพรียงกัน จะประสพผลอะไร พระเจ้าข้า ฯ
พ. ดูกรอานนท์ บุคคลผู้ที่ทำสงฆ์ผู้แตกกันแล้วให้พร้อมเพรียงกันนั้นจะประสพบุญอันประเสริฐ ฯ
อา. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ บุญอันประเสริฐคืออะไร พระเจ้าข้า ฯ
พ. ดูกรอานนท์ บุคคลผู้สมานสงฆ์ผู้แตกกันแล้วให้พร้อมเพรียงกันนั้นจะบันเทิงอยู่ในสวรรค์ตลอดกัปหนึ่ง ฯ
ความพร้อมเพรียงแห่งสงฆ์ เป็นเหตุให้เกิดความสุข และบุคคลผู้อนุเคราะห์สงฆ์ผู้พร้อมเพรียงกันแล้ว ผู้ยินดีแล้วในความพร้อมเพรียงกัน ตั้งอยู่ในธรรม ย่อมไม่พลาดจากธรรมเป็นแดนเกษมจากโยคะ ย่อมบันเทิงอยู่ในสวรรค์ตลอดกัปหนึ่ง เพราะสมานสงฆ์ให้พร้อมเพรียงกัน ฯ
จบ. อานันทสังฆสามัคคีสูตร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น